เคยสงสัยไหมคะว่าทำไมแชมพูหรือทรีตเมนต์ที่ใครๆ ก็รีวิวว่าดีเลิศ ถึงใช้ไม่ได้ผลกับเรา? หรือทำไมบางวันผมก็สวยจัดทรงง่าย แต่บางวันกลับชี้ฟูจนน่าหงุดหงิด คำตอบอาจง่ายกว่าที่คิด นั่นคือเราอาจจะยังไม่เข้าใจ “สภาพเส้นผม” ที่แท้จริงของตัวเองนั่นเอง
ทุกคนมีเส้นผม แต่สภาพเส้นผมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เมื่อรู้จักประเภทและปัจจัยต่าง ๆ ที่กำหนดเส้นผมของเราได้ จะช่วยให้ดูแลได้ถูกจุดมากขึ้น ตั้งแต่โคนถึงปลายผมให้สวย แข็งแรง เงางามอย่างยาวนานค่ะ
Part 1: วิธีเช็ค สภาพเส้นผม ด้วยตัวเองใน 3 ขั้นตอน
Hair Type – รูปทรงเส้นผม
นี่คือลักษณะทางกายภาพที่เห็นได้ชัดที่สุด โดยทั่วไปจะแบ่งเป็น 4 ประเภทหลักๆ
- ผมตรง (Type 1 – Straight): เส้นผมจะทิ้งตัวตรงสวย ไม่มีรอยโค้งหรือลอนคลื่นเลย ข้อดีคือผมจะดูเงางามได้ง่าย แต่ก็มักจะมันเร็วกว่าประเภทอื่น
- ผมหยักศก (Type 2 – Wavy): มีลักษณะเป็นลอนคลื่นรูปตัว S หลวมๆ ไม่หยิกเป็นเกลียวชัดเจน มักจะดูมีวอลลุ่ม แต่ก็มีโอกาสชี้ฟูได้ง่าย
- ผมหยิก (Type 3 – Curly): ลอนผมจะชัดเจนมาก มีลักษณะเป็นเกลียวเหมือนสปริง ต้องการความชุ่มชื้นสูงเป็นพิเศษ
- ผมหยิกมาก (Type 4 – Coily/Kinky): เส้นผมจะขดกันแน่นเป็นรูปตัว Z มีความเปราะบางและแห้งง่ายที่สุด
📌 Tip: ยิ่งผมหยิกมาก → ยิ่งต้องการ “ความชุ่มชื้น” สูงกว่าปกติ เพราะโครงสร้างหยิกทำให้ความชื้นเดินทางไม่ถึงปลายผมได้ง่าย
Hair Structure – โครงสร้างเส้นผม
ขนาดเส้นผม: ลองดึงผมที่ร่วงออกมา 1 เส้น มาเทียบกับเส้นด้ายเย็บผ้าธรรมดา
- ผมเส้นเล็ก (Fine Hair): บางกว่าเส้นด้ายอย่างเห็นได้ชัด
- ผมขนาดกลาง (Medium Hair): มีขนาดใกล้เคียงกับเส้นด้าย
- ผมเส้นใหญ่ (Coarse Hair): หนาและแข็งกว่าเส้นด้าย

| ประเภท | ลักษณะ | การดูแล |
|---|---|---|
| ผมเส้นเล็ก (Fine Hair) | ผมบาง เปราะ ขาดง่าย | ใช้ผลิตภัณฑ์น้ำหนักเบา หลีกเลี่ยงความร้อน |
| ผมเส้นกลาง (Medium Hair) | ดูแลง่าย | บำรุงสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการทำร้ายซ้ำ |
| ผมเส้นใหญ่ (Coarse Hair) | หนา แข็งแรง แต่อาจแห้งง่าย | ใช้ผลิตภัณฑ์ชุ่มชื้นเข้มข้น เช่น hair butter |
ความหนาแน่น (Density): ลองรวบผมแล้วมองดูหนังศีรษะในกระจก
- ผมบาง: มองเห็นหนังศีรษะได้ค่อนข้างง่าย
- ผมหนา: แทบจะมองไม่เห็นหนังศีรษะเลย
Scalp Condition – สภาพหนังศรีษะ
นี่คือปัจจัยสำคัญที่หลายคนมองข้าม หนังศีรษะเป็นพื้นฐานการเจริญของเส้นผม หากหนังศีรษะมีปัญหา ก็ส่งผลให้ผมอ่อนแอหรือหลุดง่าย ลองสังเกตหนังศีรษะของคุณดูหลังไม่ได้สระผมมา 1-2 วัน
- หนังศีรษะมัน: ผมเริ่มมันเยิ้มและดูลีบแบน
- หนังศีรษะแห้ง: รู้สึกตึง คัน หรืออาจมีรังแคแห้งๆ เป็นขุย
- หนังศีรษะธรรมดา: สภาพผมยังดูดี ไม่มันหรือแห้งจนเกินไป
- หนังศีรษะผสม: เป็นสภาพที่คนส่วนใหญ่เป็น คือโคนผมเริ่มมัน แต่ปลายผมยังคงแห้ง
- หนังศีรษะแพ้ง่าย: รู้สึกคัน แสบ หรือแดงง่ายเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือเจอสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
| ประเภท | ลักษณะ | แนวทางการดูแล |
|---|---|---|
| หนังศีรษะมัน | มันเร็ว ผมลีบแบน | ใช้แชมพูควบคุมความมัน หลีกเลี่ยงการนวดแรง |
| หนังศีรษะแห้ง | คัน มีรังแค ผิวลอก | ใช้น้ำมันหอมระเหยหรือ น้ำมันบำรุงหนังศีรษะ |
| หนังศีรษะธรรมดา | ไม่มัน ไม่คัน ไม่แห้ง | ทำสปาหนังศีรษะเป็นประจำ เพื่อคงสภาพนี้ไว้ |
| หนังศรีษะผสม | โคนผมมัน แต่ปลายผมแห้ง ชี้ฟู | ใช้แชมพูสูตรสำหรับหนังศีรษะมัน ปราศจากซัลเฟต (Sulfate-Free) |
| หนังศีรษะแพ้ง่าย | ระคายเคืองง่าย | ใช้ผลิตภัณฑ์ hypoallergenic เลี่ยงสารเคมี |
Part 2: เช็คพฤติกรรมของเส้นผม
เมื่อรู้จักพื้นฐานแล้ว เรามาเจาะลึกถึง “พฤติกรรม” ของเส้นผมกันบ้าง เพื่อเข้าใจถึงปัญหาของผมมากขึ้น
Hair Porosity – ความพรุนของเส้นผม
ความพรุนของเส้นผม (Hair Porosity) คือความสามารถของเส้นผมในการดูดซับและกักเก็บความชุ่มชื้น ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพเกล็ดผม (Cuticle) ว่าเปิดหรือปิดดีแค่ไหน เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับผม
🔍 วิธีทดสอบง่ายๆ: นำผมที่สะอาดและแห้งที่ร่วงออกมา 1 เส้น ใส่ลงในแก้วน้ำใสแล้วสังเกต
- ผมพรุนต่ำ (Low Porosity): ผมลอยอยู่บนผิวน้ำ เกล็ดผมปิดแน่นมาก ทำให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้ายาก แต่ถ้าเข้าแล้วจะเก็บความชุ่มชื้นได้ดี
- ผมพรุนปกติ (Medium / Normal Porosity): ผมค่อยๆ จมลงช้าๆ นี่คือสภาพผมที่สมดุลและสุขภาพดีที่สุด
- ผมพรุนสูง (High Porosity): ผมจมลงทันที เกล็ดผมเปิดกว้างเหมือนฟองน้ำ ดูดซับความชุ่มชื้นเร็ว แต่ก็สูญเสียไปเร็วมากเช่นกัน มักพบในผมที่ผ่านการทำเคมีหรือเสียมากๆ

| ประเภท | ลักษณะ | วิธีดูแล |
|---|---|---|
| ผมพรุนต่ำ (Low Porosity) | ผมไม่ดูดซึมน้ำหรือผลิตภัณฑ์ง่าย | ใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อบางเบา อบไอน้ำช่วยเปิดเกล็ดผม |
| ผมพรุนปกติ (Medium / Normal Porosity) | ดูดซับและกักเก็บความชื้นได้ดี | ถือว่าเป็นสภาพผมที่ดูแลง่ายที่สุด |
| ผมพรุนสูง (High Porosity) | ดูดซึมไวแต่สูญเสียชื้นไว | ใช้ครีมบำรุงเข้มข้น ซีลเกล็ดผมด้วยเซรั่มหรือออยล์ |
Hair Elasticity – ความยืดหยุ่นของเส้นผม
ความยืดหยุ่นคือตัวบอกสมดุลระหว่าง “โปรตีน” และ “ความชุ่มชื้น” ในเส้นผม
วิธีทดสอบ: ลองดึงผมที่ร่วงขณะเปียก 1 เส้นเบาๆ
- ยืดหยุ่นดี: ผมยืดออกได้เล็กน้อยแล้วหดกลับเหมือนหนังยาง แสดงว่าผมแข็งแรง
- ยืดหยุ่นต่ำ: ผมยืดแล้วขาดทันที แสดงว่าผมขาดความชุ่มชื้น หรือยืดออกเป็นเส้นยาวแต่ไม่หดกลับ แสดงว่าผมอ่อนแอ ขาดโปรตีน
Part 3: แนวทางการดูแลเส้นผมตาม “สภาพเส้นผม” ของคุณ
เมื่อทราบสภาพผมในหลายมิติแล้ว เรามาดูแผนการดูแลเส้นผมให้เหมาะสมกันค่ะ
สำหรับผมมัน / ผมตรงเส้นเล็ก
- เป้าหมาย: เพิ่มวอลลุ่ม ควบคุมความมัน
- เคล็ดลับ: ใช้แชมพูสูตรเพิ่มวอลลุ่ม ลองสระผมแบบ “Reverse Washing” (ลงครีมนวดก่อนแชมพู) เพื่อไม่ให้ผมลีบแบน ใช้ครีมนวดแค่ปลายผม และมีดรายแชมพูติดบ้านไว้เป็นตัวช่วย
สำหรับผมแห้ง / ผมหยักศก / ผมหยิก / ผมพรุนสูง
- เป้าหมาย: เติมความชุ่มชื้นให้สุด, ลดผมชี้ฟู, ล็อคลอนผม
- เคล็ดลับ: เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ ไม่มีซัลเฟต (Sulfate-Free), ทำทรีตเมนต์มาสก์เป็นประจำ, ใช้ Leave-in Conditioner ก่อนจัดแต่งทรงเสมอ และใช้น้ำมันเคลือบปิดท้ายเพื่อล็อคความชุ่มชื้น
สำหรับผมผสม (หนังศีรษะมัน ปลายแห้ง) (The Combination Profile)
- เป้าหมาย: ปรับสมดุลหนังศีรษะและบำรุงปลายผมไปพร้อมกัน
- เคล็ดลับ: ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนเน้นทำความสะอาดที่โคนผม แต่ใช้ครีมนวดและมาสก์ที่เข้มข้นสำหรับผมแห้งเสียเน้นแค่ช่วงกลางถึงปลายผม หลีกเลี่ยงการให้ครีมนวดสัมผัสโดนหนังศีรษะโดยตรง
สำหรับผมพรุนต่ำ (The Low Porosity Profile)
- เป้าหมาย: ช่วยให้ผลิตภัณฑ์บำรุงซึมซาบเข้าสู่เส้นผมได้ดีขึ้น
- เคล็ดลับ: ตอนทำทรีตเมนต์ ให้ใช้ความร้อนเข้าช่วย เช่น การใช้หมวกคลุมผมแล้วใช้ไดร์เป่าลมอุ่นๆ หรือการใช้ผ้าขนหนูอุ่นๆ พันรอบศีรษะ จะช่วยเปิดเกล็ดผมให้รับการบำรุงได้เต็มที่ และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เนื้อบางเบา
การเข้าใจ สภาพเส้นผม ของตัวเองคือจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดของการมีผมสวยสุขภาพดี มันไม่ใช่เรื่องของ “ผลิตภัณฑ์ที่แพงที่สุด” แต่เป็นเรื่องของ “ผลิตภัณฑ์ที่ใช่ที่สุด” สำหรับคุณ เมื่อคุณรู้จักเส้นผมของคุณดีพอ การดูแลผมจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นการเดินทางที่สนุกและให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
แหล่งอ้างอิง
- Gavazzoni Dias, M. F. R. (2015). Hair Cosmetics: An Overview. International Journal of Trichology. 7(1):2–15. doi: 10.4103/0974-7753.153450
- D’Souza, P., & Rathi, S. K. (2015). Shampoo and Conditioners: What a Dermatologist Should Know?. Indian journal of dermatology. doi: 10.4103/0019-5154.156355
- Robbins, C. R. (2012). Chemical and Physical Behavior of Human Hair (5th ed.). Springer-Verlag.
- Healthline. (2019). Hair porosity: What it means for your hair care routine. Retrieved from https://www.healthline.com/health/hair-porosity/
- Rossano Ferretti Parma. (2022). Identify your hair type, texture & porosity. Retrieved from https://www.rossanoferretti.com/identify-your-hair-type-texture-porosity/